หลายๆ คนที่อายุมากกว่า 50 ปี คงจะเห็นด้วยใช่หรือไม่ว่าเมื่ออายุมากขึ้น อาจจะเกิดปัญหามองเห็นไม่ชัด ภาพมัวราวกับมีฝ้าหรือหมอกบดบัง ทั้งยังมองเห็นสีต่างๆ ที่ผิดไปจากเดิม อย่างไรก็ดี หากว่าคุณคืออีกคนหนึ่งที่ต้องการตรวจสอบดูความผิดปกติของดวงตา สามารถตรวจรักษาโดยจักษุแพทย์เท่านั้นเพื่อให้ดวงตากลับมาสดใสมากขึ้น โดยเรื่องน่ารู้ของการผ่าต้อกระจกนั้นมีดังต่อไปนี้
1.ให้แพทย์ตรวจประเมินก่อนผ่าตัดต้อกระจก
ขั้นตอนนี้จักษุแพทย์จะทำการตรวจสอบที่ดวงตาอย่างละเอียดก่อนผ่าต้อกระจก พร้อมกับการส่งผลการวัดค่าสายตาทำเลนส์แก้วตาเทียม โดยที่จะทำการวัดความโค้งกระจกตาและความยาวของลูกตา ก่อนที่จะขยายม่านตาเพื่อให้ได้ค่าที่ถูกต้องที่สุดสำหรับคำนวณ พร้อมๆ กับการเลือกเลนส์ที่เหมาะสม โดยใส่ไปที่ในดวงตา เพื่อให้กลับมามองเห็นได้ชัดเจนอีกครั้งหนึ่ง และมีการตรวจเพื่อขยายม่านตา พร้อมๆ กับดูลักษณะต้อกระจกและดูจอประสาทตาให้ละเอียด พร้อมกับให้ข้อมูลเรื่องของเลนส์เทียมที่เหมาะสมกับคนป่วยนั่นเอง
2.แพทย์สอบถามประวัติคนไข้
แพทย์และพยาบาลจะสอบถามเรื่องโรคประจำตัวพร้อมๆ กับยาที่ใช้เป็นประจำ โดยยาบางประเภทควรที่จะหยุดก่อนจะผ่าตัด เช่นยาละลายลิ่มเลือด โดยจักษุแพทย์จะสอบถามกับอายุรแพทย์ประจำตัวคนไข้ว่าสามารถหยุดยาก่อนผ่าตัด 7 วันได้หรือไม่ ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับชนิดของยานั่นเอง
วิธีการผ่าต้อกระจก
1.สลายด้วยเครื่อง
เครื่องสลายต้อเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมมากที่สุดโดยจะใช้เวลาอยู่ที่ 30 นาที ไม่ต้องนอนโรงพยาบาล ไม่ต้องดมยาสลบ แต่จะหยอดยาชาหรือฉีดยาชาเฉพาะที่ แพทย์จะเปิดช่องขนาด 3 มิลลิเมตรและสอดเครื่องมือสลายต้อไปในตัวต้อกระจก และเปิดถุงหุ้มเลนส์เป็นวงกลม จากนั้นจะใส่เลนส์แก้วตาเทียมไปในถุงหุ้มเลนส์ แผลจึงมีขนาดเล็กมาก และสมานตัวได้เป็นปกติ ไม่ต้องเย็บแผล มองเห็นได้ดีเมื่อเปิดตาในอีกหนึ่งวันให้หลัง แต่อย่างไรก็ดีผู้ป่วยจะต้องระวังไม่ให้น้ำเข้าไปที่ดวงตาหลังจากที่สลายต้อกระจกตามเวลาที่แพทย์กำหนดเอาไว้ พร้อมๆ กับทำความสะอาดรอบๆ ดวงตา รับประทานยาและหยอดยา
2.สลายด้วยการผ่าตัด
การผ่าตัดคือวิธีการดั้งเดิมในกรณีที่ต้อกระจกสุกและแข็งมาก ทำให้สลายด้วยเครื่องไม่ได้ ซึ่งแพทย์จะเปิดแผลตามแนวรอยต่อระหว่างกระจกตาดำและผนังตาขาวครึ่งบนลูกตาที่ยาว 10 มิลลิเมตร เพื่อเอาตัวเลนส์ที่แก้วตาซึ่งเป็นต้อออก จากนั้นใส่เลนส์แก้วตาเทียมเข้าไปใหม่
จะเห็นได้ว่าการเลือกผ่าตัดต้อกระจกมีหลายวิธีด้วยกัน จะดีกว่าหรือไม่หากว่าเราจะเลือกวิธีที่เหมาะสมกับตนเองมากที่สุดนั่นเอง
